จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ต้อลม ต้อเนื้อ (pingecula and pterygium)






ก้อนเนื้อเล็กๆที่เกิดขึ้นที่เยื่อบุตาขาว มักพบบริเวณหัวตาหรือหางตา เรียกว่า ต้อลม ถ้าก้อนใหญ่ขึ้นจนเข้ามาในตาดำ จะเรียกว่า ต้อเนื้อ



ปัจจัยกระตุ้น


เมืองไทยมีอากาศค่อนข้างร้อน แสงแดดจ้า และมีลมแรง ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดต้อลม ต้อเนื้อ ขึ้นได้  นอกจากนี้ การใส่คอนแทกเลนส์ การสัมผัสสารระคายเคืองต่างๆ ก็เป็นตัวกระตุ้นเช่นกัน



อาการ


ต้อลม ต้อเนื้อ มักทำให้เกิดอาการอักเสบ เคืองตา ตาแดง โดยเฉพาะเวลาโดนลม หรือแสงจ้าๆ ถ้าต้อเนื้อใหญ่ขึ้นจนเข้ามาในตาดำมาก อาจทำให้การมองเห็นแย่ลงได้



การรักษา


โดยทั่วไป ถ้าอาการไม่มาก แค่เคืองเล็กน้อย การหยอดน้ำตาเทียม หรือการหยอดยาลดการอักเสบ ก็เพียงพอบรรเทาอาการได้ แต่ถ้าเป็นมาก เช่น มีอาการอักเสบแดงบ่อยครั้ง แสบตามาก ตามัวลง หรือก้อนต้อเนื้อใหญ่จนดูไม่สวยงาม อาจจำเป็นต้องผ่าตัดลอกต้อเนื้อ


อย่างไรก็ตาม การป้องกัน เป็นสิ่งจำเป็น เพราะแม้รักษาหาย แต่ถ้าไม่ป้องกัน ก็เป็นซ้ำได้



วิธีการป้องกัน


การใส่แว่นกันแดดเวลาออกกลางแจ้ง เวลาขับรถ การหลีกเลี่ยงการโดนแสงจ้าๆ การหลีกเลี่ยงการโดนลม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดต้อลม ต้อเนื้อได้



วิธีการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ


มีวิธีการผ่าตัดลอกต้อเนื้อหลายวิธี ประสิทธิภาพ ความยากงาย ก็แตกต่างกันไป


1. วิธีลอกต้อเนื้อธรรมดา โดยการลอกต้อเนื้อออกโดยตรง วิธีนี้ง่าย ทำได้รวดเร็ว ประมาณ 5 – 10 นาที มีอาการระคายเคืองภายหลังจากลอกค่อนข้างน้อย


ข้อดี ทำเร็ว ง่าย ระคายเคืองหลังลอกต้อเนื้อน้อย


ข้อด้อย โอกาสเป็นซ้ำได้มาก (ประมาณ 30%)



2. ลอกต้อเนื้อและปะเยื่อบุ เป็นวิธีลอกต้อเนื้อเช่นเดียวกับการลอกต้อเนื้อธรรมดา แต่มีการปะเยื่อบุเสริมในตำแหน่งที่ลอกต้อเนื้อออก เพื่อลดโอกาสการเป็นซ้ำ มีทั้งการใช้เยื่อบุตาของผู้ป่วยเอง หรือใช้เยื่อบุชีวภาพ ซึ่งนิยมใช้เยื่อบุรก ซึ่งผ่านการทำให้ปลอดเชื้อแล้ว มาวางทดแทนตำแหน่งที่ลอกต้อเนื้อออกไป


ข้อดี ลดโอกาสการเป็นซ้ำของต้อเนื้อ (ลดเหลือประมาณ 5 – 15%)


ข้อด้อย ใช้เวลาทำนานกว่า ระคายเคืองกว่าบ้างเนื่องจากมีไหมยึดเยื่อบุ ซึ่งรอประมาณ 1 สัปดาห์จึงตัดไหม (การระคายเคืองอาจน้อยลง ถ้าใช้กาวชีวภาพปะเยื่อบุแทนการใช้ไหม) ต้องใช้ทักษะมากกว่าการลอกต้อเนื้อแบบธรรมดา

หลังการผ่าตัดลอกต้อเนื้อไม่ว่าวิธีการใด ก็จำเป็นต้องหยอดยาป้องกันการอักเสบ และน้ำตาเทียมสักระยะหนึ่ง รวมทั้งการใส่แว่นกันแดดและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเพื่อลดโอกาสเป็นซ้ำ